วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558

ปากกา 3D

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็สามารถวาดภาพกลางอากาศได้ราวกับร่ายมนต์ เพียงแค่กวัดแกว่งคทากายสิทธิ์พริบตาเดียวสิ่งที่มโนไว้ก็กลายเป็นจริง! เฮ้ย!? นี่มันจะอภินิหารเกินไปหน่อยแล้ว มีด้วยเหรอวาดโดยไม่ใช้กระดาษ…ก็มีน่ะสิ! ชวนชมสรรหาเพื่อชาวโลก อยู่แล้ว..ว..ว
เมื่อก่อนเวลานักออกแบบจะทำแบบจำลองขึ้นมาสักชิ้นหนึ่ง อาจใช้ดินเหนียวหรือดินน้ำมัน ปั้นขึ้นเป็นโมเดลต้นแบบค่ะ กว่าจะได้รูปร่างอย่างที่สเก็ตช์ไว้ต้อง ตบ บี้ บีบ ดินจนปวดมือ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องกระทำรุนแรงกับดินแบบนั้นแล้ว แค่คลิกสั่งให้เครื่อง 3D Printer พิมพ์ก็เป็นอันเสร็จ ได้ชิ้นงานเหมือนอย่างที่ออกแบบไว้เป๊ะ! นักออกแบบผลิตภัณฑ์สนุกสนานเริงร่าลั้ลลากันใหญ่ แต่ก็มีคนอยากจะสร้างชิ้นงาน 3 มิติขึ้นมาเอง และแล้ว 3D Pen จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเหล่าคนสดใสหัวใจติสค่ะ
ด้วยความคล่องตัวทำให้ 3D Pen สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระ ถ้าเพื่อนๆ อยากวาดภาพ 2 มิติแนวราบกับพื้นก็วาดได้ หรือจะผาดโผนลากเส้นใยโยงไปมาเหมือนไอ้แมงมุงก็จัดได้เต็มที่ (ซึ่งนี่แหละ ที่เป็นจุดเด่นของ 3D Pen เค้าล่ะ) ไม่ใช่แค่วาดบนพื้นราบแต่สามารถวาดขึ้นเป็นชิ้นงาน 3 มิติได้ มองดูเหมือนวาดภาพกลางอากาศยังไงยังงั้นเลยค่ะ
เจ้า 3D Pen ก็หน้าตาคล้ายๆ กับปากกานี่ล่ะค่ะ ต่างกันตรงขนาดกับที่บางยี่ห้อจะมีสายไฟเชื่อมตรงท้ายด้ามมาด้วย ชวนชมวันนี้เอามาให้ดูสองสามเจ้า จะเจ๋งกว่ากันยังไงมาดูกันเลยค่ะ
ปากกา 3 มิติยี่ห้อ 3Doodler ตอนนี้กำลังออกรุ่น 3Doodler 2.0 ปรับขนาดและดีไซน์ใหม่ให้เล็กและจับกระชับมือกว่ารุ่นแรก (ซึ่งรุ่นแรกใหญ่อย่างกะไมค์โครโฟน) เป็นระบบที่ใช้ความร้อนหลอมละลายแท่งพลาสติกสีต่างๆ ให้ออกมาทางหัวปากกาค่ะ เวลาใช้แค่กดปุ่มที่ด้ามปากกาก็จะมีพลาสติกเหลวออกมา ซึ่งพลาสติกจะแข็งตัวเร็วมากทำให้วาดเป็นแนวตั้งจากพื้นราบได้ทันทีเลย ราคาตามเว็บไซต์อยู่ที่ $99.99  ตอนนี้ยังเปิดรับเป็น Preorder อยู่ จะเริ่มส่งของวันที่ 1 เดือนมิถุนายนนี้ค่ะ ส่วนแท่งพลาสติกก็มีให้เลือกหลายสีมั่กๆ เซ็ตละ 25 แท่งจะเอาสีล้วนหรือผสมหลายสีก็ได้ ราคาเซ็ตละ $9.99 ช้อปกันเพลินล่ะทีนี้

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558

การวาดภาพ (Drawing) หลักการวาดเขียนเบื้องต้น

     ผู้ที่เริ่มฝึกหัดวาดเขียนใหม่ๆ มักมีปัญหาว่าจะเขียนอะไรก่อนและเขียนอย่างไร ทั้งนี้เพราะสิ่งที่เป็นแบบในการวาดเขียนนั้นมีหลายประเภทและมีส่วนของราย ละเอียดต่างๆมากมาย จนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร สิ่งที่มองเห็นไม่ว่าจะเป็นรูปทรง แสง เงา และพื้นผิว ชนิดต่างๆ ก่อให้เกิดความซับซ้อนจนผู้ที่ฝึกวาดเขียน มองเห็นว่ายากเกินไปที่จะจับลักษณะสำคัญได้
     เปรียบเสมือนการสร้างบ้าน เราไม่สามารถเริ่มต้นด้วยการมุงหลังคา ติดประตูหน้าต่างหรือเดินสายไฟก่อน แต่จะเริ่มต้นด้วยการตั้งเสาและคาน ซึ่งเป็นโครง สร้างทั้งหมดของบ้านเสียก่อน เมื่อโครงสร้างถูกต้อง มั่นคงแข็งแรงดีแล้ว จึงไล่ลำดับไปสู่การมุงหลังคา ทำฝาผนัง ทำพื้น ตกแต่งภายใน กับการเขียนภาพก็เช่นเดียวกัน ผู้เขียนภาพจะต้องพิจารณาหุ่นต้นแบบอย่างละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน แล้วจะค้นพบและเข้าใจโครงสร้างของหุ่นต้นแบบจากนั้นก็จะกลาย เป็นเรื่อง ง่ายเพราะลำดับวิธีการที่ถูกต้องนั่นเอง
วาดเส้น (Drawing)
     การวาดเส้นมีวิธีการและขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากโดยใช้เส้นต่างๆ แสดงถึงลักษณะการเคลื่อนไหวของเส้น น้ำหนักของเส้น และความมั่นใจในการวาดเส้น สิ่งที่ี่ผู้ฝึกควรฝึกด้วยตัวเองในขั้นแรกให้เขียนเส้นตรง เส้นตั้ง และเส้นเอียง เส้นเฉียงซ้ำๆ กัน ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญในการใช้เส้น-ผสานกับมือและสายตา โดยให้สังเกตจากแสงเงาเป็นตัวกำหนดน้ำหนัก

เคล็ดไม่ลับ
     “ การเลือกมุมที่จะเขียนก็นับว่าเป็นส่วนส่งเสริมกำลังใจให้มุ่งมั่นในการวาดเขียนได้อย่างดี หากเลือกมุมที่เขียนยาก สังเกตน้ำหนัก แสง เงา หรือรูปทรง ไม่ชัดเจน ถ่ายทอดด้วยการวาดเขียนลำบาก อาจทำให้กำลังใจท้อถอยได้ง่ายในทางตรงกันข้ามถ้าเลือกมุมที่สังเกต เห็นความงามของหุ่นต้นแบบทุกด้าน อย่างชัดเจนและสามารถถ่ายทอดออกมาได้ดั่งใจ ตามระดับฝีมือของผู้เขียนก็จะทำให้มีกำลังใจมีความอยากเขียนวาดภาพได้อย่างต่อเนื่องและสนุกกับการวาด ”
**ข้อสังเกต**
การเลือกมุมมองเพื่อวาดเขียนอย่างง่ายๆ โดยทั่วไปคือ ควรเลือกมุมที่สามารถมองเห็นแสงมองเห็น
น้ำหนักอ่อน แก่ ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนบนหุ่นต้นแบบได้ชัดเจนทุกจุด
ลักษณะของเส้น (CHARACTERISTICS OF LINE) 

       ลักษณะของเส้นก็คือคุณค่าทางกายภาพของเส้นนั่นเอง ขนาดและทิศทางของเส้นจะมีลักษณะของความ
หมาย เช่นเดียวกับลักษณะนั้นๆ เช่น
ลักษณะที่ 1 เส้นดิ่ง และ เส้นตั้ง แสดงถึงความมั่นคงแข็งแรง,สง่า สงบ,คงอยู่ตลอดไป,มั่นคงถาวร,ไม่เคลื่อนไหว นิยมใช้สำหรับการเขียนภาพอาคาร อย่างเช่น สร้างรูปแบบของธนาคารที่มีเส้นตรงๆ ให้ความรู้สึกถึงความมั่นคงแข็งแรง ไม่ล้มง่าย หมายถึงความรู้สึกของผู้ที่เข้าไปฝากธนาคารด้วย อย่างนี้เป็นต้น
ลักษณะที่ 2 เส้นขนาน และ เส้นนอน แสดงถึงความรู้สึกไม่สิ้นสุดไปได้เรื่อยๆ ความสงบ,ความราบรื่น ความเรียบง่าย
ลักษณะที่ 3 เส้นเฉียง แสดงถึงความรู้สึกไม่มั่นคง,อันตราย,กำลังจะล้มแล้ว,โอนเอน,โอนอ่อนผ่อนตาม
ความไม่สมดุล
ลักษณะที่ 4 เส้นหยัก โดยใช้เส้นเฉียงมาต่อกันในลักษณะคล้ายๆ กับฟันปลา แสดงถึงความแหลมคม บาดเจ็บ,อันตราย,การทำลาย,การเคลื่อนไหวที่มีพลังอย่างต่อเนื่อง การขึ้นๆ ลงๆ ของดัชนีอย่างตลาดหุ้น ซึ่งมี
เป็นเส้นพารากราฟขึ้นมา
ลักษณะที่ 5 เส้นโค้ง แสดงถึงความอ่อนน้อม,นุ่มนวล
ลักษณะที่ 6 เส้นขยุกขยิก แสดงถึงความสับสน,ยุ่งเหยิง,วุ่นวาย,ตื่นเต้น
นอกจากลักษณะของเส้นแล้วยังมีทิศทางของเส้น ได้แก่แนวราบ แนวเฉียง แนวลึก แนวดิ่ง จากทิศทางก็เป็นขนาด ขนาดของเส้นนั้นไม่มีความกว้างมีแต่ความหนา ความบาง เส้นใหญ่หรือเส้นเล็ก ความหนาของเส้นจะต้องพิจารณาเปรียบเทียบกับความยาวเป็นหลัก เพราะเส้นที่สั้นมากจะมีความหนาดูคล้ายกับเป็นรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งจะหมดคุณสมบัติของเส้นจะกลายเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า
หน้าที่ของเส้น เส้นมีหน้าที่ที่พอจะจำกัดความได้ดังนี้

1.ใช้เป็นสำหรับการแบ่งพื้นที่ หรือที่ว่างให้แยกออกจากกัน
2.ใช้เป็นส่วนจำกัดพื้นที่ของรูปทรง
3.ใช้สร้างลักษณะต่างๆ ที่ศิลปินต้องการสร้างขึ้นมา เช่น สร้างเส้นตรง เส้นโค้งคด เส้นหยักฟันปลาหรือ
เส้นวงเป็นก้นหอย
4.ใช้สร้างความเป็น 2 มิติ และ 3 มิติให้แก่รูปทรง ให้เป็นรูประยะตื้น ลึก หนา บาง
5.ใช้แสดงแกนของสิ่งทั้งหลาย
6.ใช้สร้างให้เกิดทิศทางและการเคลื่อนไหว
7.ใช้สร้างให้เกิดแสงและเงา ด้วยการประสานเส้นโดยเส้นที่ถี่ และเส้นที่ห่าง
8.ใช้พัฒนาเทคนิคในการใช้เส้นของตัวเองที่ถ่ายทอดเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกที่อยากจะถ่ายทอด
ออกมาให้ได้ตรงที่สุด
ค่าของแสงและเงา แบ่งได้เป็น 6 ค่าระดับ

1.แสงสว่างที่สุด (HIGH LIGHT) เป็นส่วนของวัตถุที่กระทบแสงโดยตรง จึงจะทำให้บริเวณนั้นสว่างมากที่สุด
2.แสงสว่าง (LIGHT) เป็นส่วนของวัตถุที่ไม่ได้ปะทะกับแสงที่ส่องมาโดยตรง แต่อยู่ในอิทธิพลของแสงนั้นด้วย
3.เงา (SHADOW) อยู่ในส่วนรับอิทธิพลของแสงน้อยมาก
4.เงามืด (CORE OF SHADOW) อยู่ในส่วนที่ไม่ได้รับอิทธิพลของแสงเลย
5.แสงสะท้อน (REFLECTED LIGHT) บริเวณของวัตถุที่ไม่ได้รับแสงโดยตรง แต่เป็นการสะท้อนของแสง จากวัตถุใกล้เคียง
6.เงาตกทอด (CAST SHADOW) บริเวณที่เงาของวัตถุนั้นตกทอดไปตามพื้นหรือตามวัตถุอื่นที่รองรับน้ำหนักแก่กว่าบริเวณแสงสะท้อน


แสง – เงา

แสง-เงา = ความสว่างและความมืด มีผลต่อความรู้สึกและการรับรู้อิทธิพลของแสง เป็นสิ่งสำคัญในการที่ต้องศึกษา ทั้งในด้านความงามในธรรมชาติบนวัตถุ สามารถทำให้เกิดอารมณ์และความรู้สึก


ลำดับขั้นตอนในการร่างภาพ
1. สังเกตลักษณะของหุ่น
2. ร่างภาพโครงสร้างสัดส่วนให้เหมาะสมกับหน้ากระดาษ
วิธีการร่างภาพโครงสร้าง-สัดส่วนมีวิธีการดังนี้
2.1 ให้ลากเส้นตรงในแนวดิ่งหนึ่งเส้น
2.2 จากนั้นกำหนดส่วนสูงที่สุดของหุ่นและส่วนที่ต่ำที่สุดของหุ่นโดยการลากเส้นในแนวนอนให้ตั้งฉากกับเส้นดิ่ง
2.3 กำหนดความกว้างของหุ่นโดยประมาณ แล้วกำหนดสัดส่วนให้เท่ากัน
2.4 เมื่อกำหนดโครงสร้างรวมของหุ่นแล้ว จากนั้นให้เขียนเส้นโค้ง เส้นเว้า เพื่อให้โครงสร้างใกล้เคียงหุ่นมากที่สุด
3. ลงน้ำหนักรวมๆของหุ่น
4 .แรน้ำหนักพร้อมทั้งเก็บรายละเอียด
ขอบคุณข้อมูลจาก https://blog.eduzones.com/superman/33992

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ต้องขออภัยที่ไม่อัพเลย ช่วงนี้ไม่ว่างจริงๆ
วันนี้เอาผลงานที่วาดเองในโทรศัพท์มาให้ดูค่ะ วาดในแอป ibispaint x
อาจจะไม่สวย แต่อยากให้เพื่อนๆเชื่อในตัวเองน่ะค่ะ

วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ความหลงใหลในสี

งานศิลปะกับความหลงใหลของสี

งานศิลปะกับความหลงใหลของสี
โดยรอบตัวเรานั้นจะประกอบไปด้วยสีต่างๆในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นสีจากสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ สัตว์เลี้ยง หรือสีที่เกิดจากมนุษย์สร้างขึ้น ทำให้สีจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
ชนิดที่ 1 สีที่เกิดขึ้นโดยตามทำธรรมชาติ เช่นสีจากต้นไม้ ใบไม้ สีของสัตว์ต่างๆรวมไปถึงสีของแสงในธรรมชาติ
ชนิดที่ 2 สีที่เกิดโดยมนุษย์ทำขึ้น เช่นสีที่วาดรูปภาพ สีจากการทำขึ้นในละคร หรือภาพยนตร์
การหลงใหลในการวาดรูป หรืองานศิลปะต่างๆ จะรู้ดีว่าสีแต่ละสีต่างให้อารมณ์และความหมายต่างกัน รวมถึงประเภทของสีที่มีมากมายก็ทำให้รูปภาพแตกต่างออกมาอย่างชัดเจน อารมณ์ของสีซึ่งแต่ละสีนั้นจะให้ความรู้สึกต่างกัน และเมื่อเรารู้ข้อนี้จะสามารถทำให้เราเลือกใช้สีได้ถูกต้อง และเหมาะสมตามสถานการณ์ยกตัวอย่างเช่น สีดำสามารถสื่ออารมณ์ในด้าน เศร้าเหงาหงอย โดดเดี่ยว , สีแดงเป็นตัวแทนความร้อนแรง ดุดัน มั่งคั่งได้อย่างดี ดังนั้นจะเห็นได้ว่าหากเราสามารถใช้สีในการสื่ออารมณ์ได้อย่างถูกต้องไม่ว่าจะเป็นการกำหนดทิศทางของภาพ ความหมายของภาพได้อย่างดี
วรรณะของสี  คือสีที่ให้ความรู้สึกร้อน-เย็น ในวงจรสีจะมีสีร้อน 7 สี และสีเย็น 7 สี ซึ่งแบ่งที่ สีม่วงกับสีเหลือง ซึ่งเป็นได้ทั้งสองวรรณะ แบ่งออกเป็น 2 วรรณะ
  1. วรรณะสีร้อน (WARM TONE) ประกอบด้วยสีเหลือง สีส้มเหลือง สีส้ม สีส้มแดง สีม่วงแดงและสีม่วง สีใน  วรรณะร้อนนี้จะไม่ใช่สีสดๆ ดังที่เห็นในวงจรสีเสมอไป เพราะสีในธรรมชาติย่อมมีสีแตกต่างไปกว่าสีในวงจรสีธรรมชาติอีกมาก ถ้าหากว่าสีใด  ค่อนข้างไปทางสีแดงหรือสีส้ม เช่น สีน้ำตาลหรือสีเทาอมทอง ก็ถือว่าเป็นสีวรรณะร้อน
  2. วรรณะสีเย็น (COOL TONE) ประกอบด้วย สีเหลือง สีเขียวเหลือง สีเขียว สีเขียวน้ำเงิน สีน้ำเงิน สีม่วงน้ำเงิน และสีม่วง ส่วนสีอื่นๆ ถ้าหนักไปทางสีน้ำเงินและสีเขียวก็เป็นสีวรรณะเย็นดังเช่น สีเทา สีดำ สีเขียวแก่ เป็นต้น จะสังเกตได้ว่าสีเหลืองและสีม่วงอยู่ทั้งวรรณะร้อนและวรรณะเย็น ถ้าอยู่ในกลุ่มสีวรรณะร้อนก็ให้ความรูสึกร้อนและถ้า อยู่ในกลุ่มสีวรรณะเย็นก็ให้ความรู้สึกเย็นไปด้วย สีเหลืองและสีม่วงจึงเป็นสีได้ทั้งวรรณะร้อนและวรรณะเย็น

วาดรูปก็ผ่อนคลายความเครียดได้

การวาดรูปสามารถผ่อนคลายความเครียดได้

ความเครียดเกิดได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว เรื่องความรัก ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดความเครียดได้ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับตัวของเราเองว่าเราสามารถรับมันไหวไหม บางคนเครียดหนักๆ ถึงขั้นจิตตกกันเลย ไม่รับประทานข้าว ไม่นอน อาจจะถึงขั้นต้องพึ่งยาเสพติด แต่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้หลากหลายวิธีที่สามารถช่วยลดความเครียดลงได้ เช่น วาดรูป เล่นดนตรี ออกกำลังกาย เล่นเกม ทั้งนี้จะยกตัวอย่างวิธีการผ่อนคลายความเครียดด้วยการวาดภาพเพื่อคลายเครียดหรือบำบัดความเครียด เพราะไม่ใช่แค่ระบายสีให้รูปเกิดความสวยงาม แต่ยังเป็นการถ่ายทอดจินตนาการออกมาเป็นรูปธรรมที่สามารถมองเห็นได้และสัมผัสได้ ผู้ที่มีความเครียดต้องการจะระบายบางสิ่งบางอย่างออกมากับภาพนั้นๆด้วย ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากงานศิลปะ คือ 1.ได้รู้จักกับตัวเองมากขึ้น คล้ายกับการได้คุยกับตนเองในอดีต ได้ทบทวนเรื่องราวในอดีตของตัวเอง 2.ทำให้รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ 3.การวาดภาพทำให้นึกถึงในอดีตที่มีความสุข 4.ได้ใช้ความคิดที่เป็นอิสระ 5.เป็นช่วงเวลาที่ได้นึกถึงเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นภายในจิตใจอย่างมีสติและรอบคอบ ทำให้เกิดสมาธิขึ้น 6.มีความสุขมาก การวาดภาพจะช่วยสื่อถึงความรู้สึกของเราได้ดีกว่าการพูดออกมา 7.ศิลปะช่วยเติมพลังในสมองให้เกิดขึ้นและมีความพร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งที่จะผ่านเข้ามาได้ดียิ่งขึ้น 8.การวาดภาพทำให้จิตของเรา ความคิดของเราได้อยู่กับตัวเอง 9.การวาดภาพเป็นเวลาที่ได้ย้อนกลับไปในเหตุการณ์ เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต มีหลากหลายอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้น 10.ช่วยให้เกิดอารมณ์สุนทรีย์ ทำให้เรื่องราวเครียดๆ 11.มีความคิดโล่ง โปร่งสบาย และจิตใจเป็นสมาธิมากขึ้น จะเห็นได้ว่าการผ่อนคลายความเครียดด้วยการวาดภาพนั้นก่อให้เกิดประโยชน์และผ่อนคลายความเครียดได้มากเลยและยังช่วยให้มีความพร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งที่จะผ่านเข้าได้ดีด้วย ดังนั้นการนำวิธีการนี้มาใช้ในขระที่เกิดการเครียดเยอะๆก็สามารถที่จะช่วยให้จิตใจสงบได้อีกทั้งทำให้เรามีสมาธิมากขึ้นด้วย

ปากกาในอนาคตออกมาแล้วววว

เจ๋งสุดๆ กับปากกาวาดภาพในอากาศ แบบ 3 มิติ

เคยคิดกันไหม ว่าอยากจะให้รูป 3 มิติที่อยู่ในความคิดคุณ ปรากฎออกมาเป็นรูปร่างจริงๆที่จับต้องได้ ถ้าย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายปี แน่นอน!!! เราทำไม่ได้ แต่ ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้น ทำให้สามารถสร้างวัตถุที่ตอบสนองต่อความต้องการของมนุษย์ได้เพิ่มขึ้น ดังนั้น แค่คุณคิดแล้วจับปากกา จากนั้นลงมือวาดออกมา คุณก็จะได้ภาพ 3 มิติอย่างง่ายดาย มาดูกันว่า ทำอย่างไร เราจึงสามารถสร้างสรรค์รูปภาพ 3 มิติที่อยู่ในความคิดของเรา ปรากฎออกมาเป็นรูปร่างจริงๆ
ลองนึกย้อนวัย กลับไปเป็นเด็ก เมื่อคุณครูสั่งให้เราสร้างรูป 3 มิติ สิ่งแรกที่เราทุกคนนึกถึงก็คือ การนั่งวาดเค้าโครงภาพ วัตถุที่เราต้องการสร้างสรรค์ ในกระดาษวาดรูปซึ่งเป็นภาพแบบ 2 มิติ จากนั้นก็ใช้ดินน้ำมัน หรือดินเหนียว ปั้นออกมา เป็นรูปทรง 3 มิติ เป็นชิ้นงานที่เราแสนจะภาคภูมิใจ
ทางบริษัท เปิดเผยว่า ปากกา 3Doodler ประกอบด้วย หัวปากกา ที่ทนความร้อนได้ถึง 270 องศาเซลเซียส และในปากกาประกอบด้วย หมึกคือ พอลิเมอร์ ABS (Acrylonitrile butadiene styrene) เมื่อเราเสียบปลั๊กปากกา จะทำให้หมึกร้อน และเมื่อเราลงมือวาดภาพหมึกร้อนๆ นี้ จะไหลออกมาเมื่อสัมผัสกับอากาศ จะแข็งตัวอย่างรวดเร็ว และแข็งแรง ทำให้เราสามารถวาดภาพ 3 มิติในอากาศได้อย่างมั่นคง แข็งแรง และได้รูปทรงตามที่เราสร้างสรรค์ ทางบริษัทได้กล่าวว่า “เราอยากจะออกแบบ อุปกรณ์ที่สามารถสร้าง รูปทรง 3 มิติที่ใช้เวลาสร้างเพียงไม่กี่นาที โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านคอมพิวเตอร์ ดังนั้น ปากกาที่เราสร้างขึ้นมา ทุกคนสามารถใช้งานได้ง่ายสะดวก และมีความสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการออกแบบรูปร่าง โครงสร้างต่างๆ”
ตอนนี้หลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะมีความตื่นเต้น อยากลองใช้เจ้าปากกา 3Doodler สุดเจ๋งแท่งนี้ จนเกิดคำถาม ในเรื่องของราคา และแหล่งซื้อ ซึ่ง ปัจจุบัน ปากกา 3Doodler ได้วางจำหน่ายในเว็บไซต์ ในราคาแท่งละ $99.99 ซึ่งนับว่าราคายังคงแพงอยู่ เนื่องจากราคานี้ยังไม่รวมกับ หมึก (พอลิเมอร์) ที่คิดราคาแยกเป็นสีๆ ตามความต้องการ ซึ่งราคาสีละ $9.99แต่ในอนาคต คาดว่าราคาของปากกานี้น่าจะลงลง ให้พวกเรา ได้เป็นเจ้าของ ไว้สร้างสรรค์ผลงาน 3 มิติ อย่างแน่นอน
ด้วยวิวัฒนาการนี้ อีกหน่อย การใช้ปากกาธรรมดาๆ ดินสอ หรือแม้แต่กระดาษ สร้างสรรค์ผลงานอาจจะเป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปแล้วก็เป็นไปได้

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

นอกเรื่อง นิสสส
เรามี 10 เทคนิคเรียนดี

 เพื่อนๆ หลายคนคงเคยเจอกับปัญหา เรียนตก เรียนไม่เก่ง หัวไม่ดี กันมาทั้งนั้น แต่!เราจะมีวิธีแก้ไขมันยังไง ทำให้เราเป็นคนเรียนดี เรียนเก่งได้นั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย หากเพื่อนๆ มีความตั้งใจที่จะทำให้สำเร็จจริงๆ อย่าไปคิดว่าเราเป็นคนเรียนไม่ดี เรียนไม่เก่ง สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราท้อ และล้มเลิกความตั้งใตในการเรียน หรือจะทำสิ่งต่างๆก็ตาม ให้จำไว้ว่าคนเรียนเก่งนั้น มันต้องเริ่มจากตัวเรา ถ้าเราขยัน หมั่นอ่านหนังสือทุกวัน ซึ่งไม่จำเป็นเลยว่าจะต้องอ่านทีละเยอะๆ อ่านนานๆ แค่เรารู้จักแบ่งเวลา จัดตารางอ่านหนังสือ แค่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วที่เราจะสามารถกลายเป็นคนเรียนเก่ง ^^ ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ลองมาดู 10 เทคนิคเรียน ให้เป็นคนเรียนเก่ง

เทคนิคเรียน : 1. คนเรียนเก่ง แบ่งเวลาเป็น
เคล็ดลับข้อแรก ถึงแม้ว่าเราจะชอบเล่นเกมส์ อ่านการ์ตูน เล่นกีฬา ดูหนัง ฟังเพลง ช้อปปิ้ง ฯลฯ ขอแค่เราแบ่งเวลาให้เป็น เวลาไหนเล่นก็เล่น เวลาไหนเรียนก็เรียน จะเล่นวันละกี่ชั่วโมงก็ได้ แต่ขอเจียดเวลามาเรียนนอกเหนือจากในห้องเรียนสักวันละ 30 นาที ? 1 ชั่วโมงก็พอแล้ว (เสาร์-อาทิตย์ไม่ต้องก็ได้) ทำง่ายๆแต่ได้ผลชงัดนัก
เทคนิคเรียน : 2. คนเรียนเก่ง ทบทวนล่วงหน้า-หลังเรียน เข้าหัวไม่ต้องจำ
เชื่อว่าข้อนี้ถูกใจคนขี้เกียจจำไม่น้อย (นายติวฟรีเองก็ด้วย หึหึ) เคล็ดลับง่ายๆ อ่านล่วงหน้าก่อนเข้าห้องเรียนสัก 10-15 นาที อ่านผ่านๆแค่หัวข้อก็พอว่าวันนี้เราจะเรียนอะไรบ้าง พอตกเย็น ก็อ่านทบทวนผ่านๆอีกรอบว่าวันนี้เราเรียนอะไรไป วันต่อวัน มันจะเข้าไปอยู่ในหัวเองไม่ต้องออกแรงจำให้เมื่อย แถมทำบ่อยๆมันจะประติดประต่อกันเองทั้งเทอม โอ้ สบายเลย
เทคนิคเรียน : 3. คนเรียนเก่ง ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง
แม้หลายๆคนจะรู้อยู่ว่าดินพอกหางหมูไม่ดี แต่ก็เชื่อว่าทุกๆคนก็เคย หรือยังมีดินพอกหางหมูอยู่ทั้งนั้น นายติวฟรีเองเคยพอกนานถึงสองเดือนด้วยซ้ำ มันลำบากมากที่ต้องมาตามแก้ดินพอกหางหมู บางครั้งใช้เวลามากกว่าเดิม 3 เท่าบ้าง 4 เท่าบ้าง รู้งี้ทำซะเลยไม่ปล่อยให้พอกก็ดีหรอก 
เทคนิคเรียน : 4. คนเรียนเก่ง ไม่เรียนอัดก่อนสอบ
ข้อนี้ตามสองข้อที่แล้วมาติดๆ ถ้าน้องปล่อยพอกไว้ตั้งแต่ต้นเทอม ยันปลายเทอม แล้วมาอัดอ่านทีเดียวก่อนสอบ มันจะไม่ทันเอา หลายเรื่อง หลายวิชา ถ้าใครเคยเรียนอัดก่อนสอบคงรู้ดี (นายติวฟรีก็เคยทำ) ว่า อ่านบทแรกก็ยังโออยู่ แต่พออ่านบทสอง ดั๊นลืมบทแรก พออ่านบทสาม ดั๊นลืมบทสอง ฯลฯ แบบนี้เรียกว่า ได้หน้าลืมหลัง มาดูตัวอย่างสดๆกันตรงนี้เลย นายติวฟรีถามว่า เคล็ดลับข้อแรกคืออะไร (ห้ามย้อนกลับไปอ่านนะ) เชื่อว่าตอบไม่ได้กันเกินครึ่ง อิอิ จริงๆแล้วมันมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนอยู่นะว่า สมองของคนเรา จะสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆได้ดีโดยค่อยๆจดค่อยๆจำสะสมไปเรื่อยๆ ถ้ามาพยามจดจำในระยะเวลาสั้นๆมันจะไม่เข้าหัว ขนาดไอน์สไตน์ฉลาดเป็นกรด ก็ยังจำเยอะๆในเวลาสั้นๆไม่ไหวเลย
เทคนิคเรียน : 5. คนเรียนเก่ง ลงมือทำโจทย์ แบบฝึกหัด การบ้าน
น้องๆหลายคนมองข้ามการทำโจทย์และแบบฝึกหัดต่างๆไปโดยสิ้นเชิง แล้วกลับไปให้ความสำคัญกับการเรียนเนื้อหา หรือทฤษฎีต่างๆ หลายๆคนหนักข้อ แบบฝึกหัดข้อแรกที่ได้ทำคือในห้องสอบนั่นเอง แล้วมันจะทำได้ยังไง T_T พอออกมาจากห้องสอบก็น้ำตาตกในทำไม่เป็น นักฟุตบอลเก่งๆอย่างเมสซี่ เขามีความลับในความเก่งซ่อนอยู่ นั่นคือ เขาใช้เวลาเรียนทฤษฎีนิดเดียว เอาให้ได้ครบสักรอบสองรอบก็พอ แล้วใช้เวลาที่เหลือไปทุ่มเทให้กับการซ้อมในสนาม (ทำแบบฝีกหัด) อย่างหนักทุกวันๆ ถ้าอยากเรียนเก่งเหมือนเมสซี่เล่นบอลเก่ง เราก็ต้องขยันทำแบบฝึกหัดเยอะๆเข้าไว้ ^^
เทคนิคเรียน : 6. คนเรียนเก่ง ทำ mindmap เรียนรู้จากภาพใหญ่ไปภาพเล็ก
มันจะง่ายกว่าเยอะมากถ้าเรามองความสัมพันธ์ของเนื้อหาทั้งหมดโดยรวม ว่ามันเกี่ยวข้องกับอะไร แล้วมีหัวข้ออะไรบ้าง แต่ละหัวข้อเกี่ยวข้องกันอย่างไร อย่างการทำ mindmap นั้นช่วยได้มากๆ ที่สำคัญทำง่ายด้วย ไม่ต้องคิดว่ามันเป็นเรื่องยาก แค่มีกระดาษกะปากกา ก็สามารถทำเองได้แล้ว
เทคนิคเรียน : 7. คนเรียนเก่ง ทำสรุป/ช้อตโน้ตด้วยตัวเอง
การทำสรุปหรือช้อตโน้ตจะเป็นเสมือนการทบทวนและสรุปเนื้อหาด้วยตัวเอง น้องๆจะมีสรุปของเพื่อนที่เก่งๆก็ได้ แต่สำคัญคือ ให้ทำเวอร์ชันของตัวเองด้วย (เขียนสรุปจากสรุปของเพื่อนก็ได้นะ) แค่การทำก็เหมือนว่าได้ทบทวนไปแล้วรอบนึง ที่สำคัญคือ เมื่อตัวเองมาอ่านสรุปของตัวเองแล้วนั้น มันจะจำได้ชัดเจนมากกว่าการอ่านสรุปของคนอื่นมากๆ ยิ่งถ้าเขียนสรุปด้วยปากกาหลายสี วาดรุปน่ารักๆลงไป บางครั้งในห้องสอบ จำได้ด้วยแน่ะ ว่าตรงนี้เราสรุปด้วยปากกาสีอะไร วาดรูปอะไรลงไป
เทคนิคเรียน : 8. คนเรียนเก่ง ติวเป็นกลุ่มกับเพื่อน ผลัดกันถาม ผลัดกันตอบ
การอ่านคนเดียวบางครั้งเราก็มองข้ามเรื่องสำคัญบางเรื่องไป การจับกลุ่มกะเพื่อน ติว หรือผลัดกันถามตอบ ก่อนสอบ จะทำให้เราได้ในส่วนที่เรามองข้ามไป ถึงบางอ้อหลายจุด บางครั้งการจับกลุ่มถามตอบก่อนเข้าห้องสอบไม่กี่ชั่วโมงก็ทำให้เราจำอะไรดีๆได้มากกว่าที่คิดอีกนะ
เทคนิคเรียน : 9. มั่นใจในตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองไม่เก่งเรียนยังไงก็ไม่ได้
ข้อห้ามที่สำคัญมากๆ ห้ามคิดว่าตัวเองไม่เก่งแล้วไม่สามารถทำได้เด็ดขาด เด็กไม่เก่งก็มีวิธีเรียนดีของเด็กไม่เก่งเหมือนกัน ท้อได้แต่ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด!
เทคนิคเรียน : 10. คนเรียนเก่ง ดูแลตัวเอง กินให้พอ นอนให้พอ
หลายๆคนคิดว่า นี่คือเคล็ดลับตรงไหนเนี่ย แต่ที่จริงแล้ว มันเป็นสุดยอดเคล็ดลับ ที่ทำให้น้องเก่งจากภายใน ร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ กินอิ่มนอนหลับ จะส่งผลให้ สมองปลอดโปร่งตามไปด้วย พอสมองปลอดโปร่ง จะแล่นมาก จำอะไรได้ง่ายกว่า เร็วกว่า เยอะกว่า ไม่ลองไม่รู้นะจร้าาา
เจอมาก็เลยมาบอก บั้ยยย

วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558

วันนี้จะมาแนะนำแอฟวาดรูปในโทรศัพท์ ชื่อ ibisPaint X 
เลิฟลองใช้ดูแล้ว คือมันดีมากเลย วาดง่ายมาก

ฮี่ๆ เสร็จแล้วววว > < 
ฝากติดตามต่อด้วยน่ะค่ะ 

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2558

แหะๆ เดี๋ยวนี้ไม่มีอะไรมารีวิวให้ดูเลย  วันนี้มี How to การวาดดวงตาแบบแบ้วๆมาให้ดูแล้วกันน่ะค่ะ ชดเชยๆ ><"
เครดิต(หรือในรูปก็ได้ค่ะ) : Muliga K.

วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

แรงบันดาลใจ...พร้อมแนะนำตัว

เริ่มแรกน่ะค่ะ ชื่อเลิฟน่ะ
ชื่อจริงชื่อ วริศรา ลิ้มตนานนท์  อายุ 13 ปี
เลิฟอยากบอกว่า การวาดรูปเนี่ย มันต้องมีแรง
บัลดาลใจก่อน เช่นวาดนี้เลิฟมีรูปที่เกิดจากแรง
บัลดาลใจที่ว่า เลิฟอยากเป็นนางฟ้า>< แหะๆ มโนมาก...
ก็ออกมาแบบนี้  แอ่นแอ้น...
เลิฟจะอัพวิธีต่างๆบ่อยๆน่ะค้าาา^^
ฝากติดตามน่ะค้าาา